เรื่องย่อจนจบ เอลิซ่าสาวสวย กำลังเดินทางไปหาพ่อแม่ในช่วงพักร้อน เขานั่งรอรถมารับ ในระหว่างรอเขาก็โทรศัพท์คุยกับแม่เรื่องที่ตัวเองไม่สบาย อาเจียนหลายรอบกินข้าวไม่ได้ หลังจบการสนทนา แอฟในมือถือเด้งขึ้นมา เป็นแอฟที่เขาจองรถไว้ ในแอฟแสดงรายชื่อผู้โดยสารที่ร่วมทางไปด้วยกัน รถจอดรอเอลิซ่าอยู่ด้านหน้าร้าน เอลิซ่าเดินออกมาขึ้นรถ ผู้โดยสารที่อยู่ในรถไม่มีใครที่รู้จักกันเลย
ฟาบิซิโอคนขับรถที่จะพาผู้โดยสารเดินทางในครั้งนี้ ก่อนที่จะออกเดินทางฟาบิซิโอขอบันทึกวีดีโอแนะนำตัว เพื่อลงอินตราแกรมและบล๊อคการท่องเที่ยว อีกอย่างเพื่อให้ทุกคนที่โดยสารได้รู้จักกันไว้ คู่รักโซเฟียและมาร์คจะไปงานแต่ง ผู้ชายวัยกลางคนชื่อริกการ์โด้จะไปหาเมีย ส่วนเอลิซ่าจะไปหาพ่อแม่ช่วงพักร้อน
การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจะถึงที่หมาย ริกการ์โด้เห็นว่าสายแล้วจึงบอกให้ฟาบิซิโดออกเดินทางสักที และก็ได้เวลารถล้อหมุน เส้นทางในการเดินทางดูเปลี่ยวๆข้างทางเป็นป่า รถสวนทางมาแทบไม่มี เมื่อนั่งรถไปนานๆโซเฟียกับมาร์คก็หาเกมส์มาเล่นแก้เบื่อ สักครู่มีเสียงมาจากคนขับรถ บอกว่าถ้าทุกคนหิวเสบียงอยู่ด้านหลัง มาร์คได้ยินเช่นนั้นก็ร้องว๊าว วิ่งเข้าหาเสบียงหลังรถทันที เสบียงที่ว่าคือเบียร์ มาร์คเปิดเบียร์มาแจกจ่ายทุกคนในรถ แต่เอลิซ่าบอกไม่รับ มาร์คก็ยังดึงดันส่งให้ โซเฟียบอกมาร์คอย่าไปทำแบบนั้น มาร์คยังไม่หยุดสุดท้ายเอลิซ่าก็เลยรับเบียร์มาและจิบไปนิดหน่อย รถวิ่งไปสักระยะเอลิซ่าเกิดอาการจะอาเจียน ฟาบิซิโอจึงจอดรถ เอลิซ่ารีบเปิดประตูวิ่งออกจากรถ หาที่อาเจียนใกล้ๆต้นไม้ เธอคงเมารถมาร์คพูด
ยังไม่ถึงไหนก็เกิดมีการโต้เถียงกันระหว่าง มาร์คและฟาบิซิโอ โดยมาร์คบอกว่า ฟาบิซิโอเมาไม่สามารถขับรถได้ มาร์คจึงรับอาสาขับแทน แต่ฟาบิซิโอไม่ยอมเพราะไม่ใช่รถเขา มาร์คหันไปถามริการ์โดว่าขับรถเป็นหรือไม่ ริการ์โดปฏิเสธไปเพราะเขาไม่มีใบขับขี่ ทำให้มาร์คต้องเป็นคนขับ ส่วนฟาบิซิโอก็มานั่งแทนที่มาร์ค
ดึกๆผู้โดยสารหลังรถก็หลับหมด รถวิ่งไปเรื่อยๆมาร์คก็เริ่มมีอาการง่วงนอน เขาหันไปคุยกับฟาบิซิโอ ระหว่างทางจะมีป้ายบอกให้ระวังกวาง มาร์คก็ไม่สนใจขับรถต่อไปพูดไปเรื่อย แต่สักพักข้างหน้ามีกวางนอนตายอยู่กลางถนน มาร์คมองไม่เห็นหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ฟาบิซิโอมองเห็น แทนที่เขาจะบอกให้มาร์ค เขาพุ่งเข้าไปแย้งพวงมาลัยรถจากมาร์ค ทำให้รถเสียหลักวิ่งไปชนต้นไม้
เช้าวันต่อมา เอลิซ่าเป็นคนเดียวที่เพิ่งพื้นตื่นจากเหตุการณ์เมือคืนนี้ เขาค่อยๆลืมตาขึ้น เพราะได้ยินเสียงร้องจากการบาดเจ็บของใครบ้างคน เขาลุกขึ้นมอง เห็นกลุ่มเพื่อนกำลังพยุงมาร์คจากหน้ารถมานอนที่เบาะหลัง มาร์คขาหักหมอริการ์โด้ หาไม้มาตามขาไว้ และบอกให้เอลิซ่า โทร 118 เพื่อแจ้งเหตุ เอลิซ่าจึงโทรแต่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ โซเฟียก็โทรบ้างไม่มีสัญญานเหมือนกัน จึงหันไปบอกให้ฟาบิซิโอที่นั่งกัดเล็บอยู่หน้ารถเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง ให้ลองโทร118แจ้งเหตุ ฟาบิซิโอตอบกลับมาว่าโทรแล้วไม่มีสัญญานเหมือนกัน
เอลิซ่ามองไปทางหน้ารถค่อยๆกวาดสายตาไปพร้อมกับเปิดผ้าม่านออกเพื่อดูนอกรถ เอลิซ่าทำหน้าตกใจ ระหว่างนั้นหมอก็พูดกว่าเราต้องเดินไปที่ถนนหาคนมาช่วย ไม่มีถนนเอลิซ่าตอบกลับ ทุกคนหันมามองที่เอลิซ่า
ณ.ที่รถจอดอยู่ปัจจุบันเป็นลานกว้างมีป่าล้อมรอบไม่ใกลจากรถมีบ้านอยู่หลังหนึ่งตั้งอยู่ ทุกคนเดินลงจากรถแล้วเดินไปที่บ้านหลังนั้น โซเฟียเดินขึ้นไปเคาะประตู ถามว่ามีใครอยู่มั้ย ไม่มีเสียงตอบ เขาจึงส่องดูข้างในบ้านและพยายามเปิดประตูแต่ก็เปิดไม่ได้
ทุกคนจึงเดินกลับมายังรถเหมือนเดิม หมอริการ์โด้จึงไปลองสตาร์ทรถ แต่สตาร์ทไม่ติด จากนั่งคุยกันเรื่องเมือคืน มาร์คยืนยันว่าที่รถเกิดอุบัติเหตุเพราะฟาบิซิโอเข้ามาแย่งพวงมาลัย ส่วนตัวฟาบิซิโอก็บอกว่ามารค์หลับในจึงมองไม่เห็นกวางที่นอนตายอยู่กลางถนน มาร์คก็ยอมรับว่าเขาอาจจะเผลอหลับไปนิดหน่อย โซเฟียถามมาร์คว่าต้นไม้เที่ราชนอยู่ห่างจากถนนเท่าไหร่ ไม่รู้แต่คิดว่าคงไม่กี่เมตร มาร์คตอบ โซเฟียตอนนี้เรามองไม่เห็นถนนเลยเราอยู่กลางป่า มาร์คทำหน้าตกใจและบอกว่าไม่น่าเป็นไปได้ หมอบอกว่าดูต้นไม้รอบๆสิ เราผ่านต้นไม้เหล่านั้นมาได้อย่างไร มาร์คมองไปที่หน้าต่าง หมอก็พูดต่อไปว่าสิ่งนี้ที่เราเรียกว่าเป็นไปไม่ได้ คำพูดของหมอยิ่งทำให้มาร์คทำหน้าตกใจไปใหญ่ แล้วหมอก็เปิดประตูลงจากรถเพื่อที่จะเดินไปหาถนน ถ้าเจอถนนเราจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรถถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ ฟาบิซิโอเดินตามหมอเขาพยามยามให้หมอเดินไปอีกทิศทางหนึ่ง แต่หมอก็ยังยืนยันเดินไปในทิศทางเดิม ฟาบิซิโอวิ่งตามหมอไป
กลับมาที่เอลิซ่า เขาและโซเฟียนั่งอยู่ในรถ เอลิซ่าได้ส่งข้อความไปบอกแม่ว่า ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน หนูกลัวและต้องการความช่วยเหลือ โซเฟียเดินมานั่งข้างๆ เอลิซ่าจึงถามโซเฟียว่า คบกับมาร์คมานานแค่ไหน
หมอกับฟาบิซิโอเข้าเดินไปในป่าเพื่อจะหาถนนว่าอยู่ตรงไหน ทั้งคู่เดินไปเรื่อยๆก็ยังไม่มีวี่แว่วจะเจอถนนสักที ทั้งคู่เดินกันต่อจนไปเจอสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูแปลกๆ คล้ายกับสานที่บูชายัญ มีรูปหุ่นฟางยืนเรียงกันอยู่ 3 ตัวด้านล่างมีหัวหมูเสียบเรียบเรียงรายอยู่หลายหัว หมอจึงพูดว่านี่มันคืออะไรเป็นสถานที่สำหรับซาตานหรือไม่ ฟาบิซิโอเห็นท่าไม่ดีจึงบอกว่าเราออกไปจากที่นี่ดีกว่า ว่าแล้วก็หันหลังวิ่ง หมอก็เดินตาม
กลับมาที่รถ โซเฟียนั่งพิงผนังหลับมาร์คก็นอนหนุนตักโซเฟียหลับเช่นกัน เอลิซ่าก็นั่งไถมือแบบเซ็งๆ ในระหว่างนั้นเอลิซ่าก็หันไปมองบ้านร้างหลังนั้นอีกครั้ง ปรากฏว่าประตูบ้านเปิด ทั้งๆที่ก่อนหน้าประตูเปิดไม่ได้ เอลิซ่ามองดูเพื่อนแต่ทั้งคู่ยังหลับ จึงค่อยๆออกจากรถเพื่อไปยังบ้านหลังนั้น เอลิซ่ายืนเรียกอยู่หน้าปะตูบ้าน มีคนอยู่มั้ย แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เขาจึงเดินเข้าบ้าน เดินไปยืนจ้องดูหัวกวางอยู่นานจากนั้นหันไปดูรูปถ่ายที่ติดอยู่ด้านหลัง ภาพถ่ายขาว-ดำ แขวนเรียงรายอยู่บนผนัง รูปถ่ายเป็นรูปคนยืนเรียงแถว บ้างเป็นรูปเดี่ยวนั่งอยู่ แต่ทุกคนในรูปจะสวมหน้ากากรูปกวาง ขณะที่เอลิซ่าดูภาพอยู่เงียบๆ เหมือนมีอะไรเดินผ่านด้านข้างของเขาในระยะที่ไม่ใกล ทำให้เอลิซ่าตกใจและหันไปดูอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เห็นมีใคร เขาจึงค่อยเดินไปดูใกล้และผลักประตูเข้าไปในห้อง ในห้องนั้นมีเทียนถูกจุดตั้งไว้เรียงราย ที่ผนังมีรูปวาดขนาดใหญ่เป็นคนสวมชุดคลุมสีแดงเต็มตัว เขาเดินเข้าไปดูใกล้
ไม่นานเพื่อนๆก็เข้ามาสมทบ ฟาบิซิโอมองดูภาพแล้วเล่าเกี่ยวกับภาพว่า นี้คือปีศาจในตำนานสามพี่น้องออสโซ่ ฟาบิซิโอพูดต่อไปว่า ยายเขาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ สามพี่น้องออสโซ่ว่า พวกเขามาจากโลกอื่นเพื่อมาช่วยชาวบ้านที่กำลังอดอยากแต่มีข้อแม้ว่าต้องแลกกับการบูชายัญ พวกเขาจะเลือกเหยื่อมาทำพิธี และจะตัดหู ตัดลิ้น และควักลูกตาของเหยื่อ เป็นเรื่องไร้สาระเลิกพูดซะทีหมอริการ์โด้พูดสวนขึ้น แต่โซเฟียมาตอกย้ำความเชื่อแล้วหัวหมูที่เสียบในป่ามันคืออะไร
คืนนี้ต้องนอนกันในรถ โซเฟีย มาร์ค เอลิซ่า หลับไปแล้ว หมอริการ์โด้และฟาบิซิโอยังไม่หลับ ขณะที่หมอกำลังนั่งดูมือถือ จู่ๆก็มีแสงไฟจากในบ้านส่องเข้ามาในรถทำให้ โซเฟียและเอลิซ่าจึงตื่น ทั้ง3คนมามุงดูที่กระจกหน้าต่างรถ โซเฟียพูดขึ้นมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียวโซเฟียลงจากรถวิ่งไปที่บ้านพร้อมกับเอลิซ่า แม้หมอจะรั้งไว้ แต่ไม่เป็นผล สองสาวถือไฟฉายเป็นประตูเข้าบ้านไป โซเฟียเห็นโซ่ห้อยอยู่คิดว่าจะต้องมีชั้น 2 จึงดึงโซ่ลงมา แล้วก็มีบันใดสำหรับขึ้นไปชั้น 2 โซเฟียไม่รอช้าขึ้นไปชั้น 2 ตามด้วยเอลิซ่า ทั้งคู่ตกใจเมือเห็นมีเด็กหญิงถูกขังอยู่ หมอและฟาบิซิโอก็วิ่งตามเข้ามาสมทบ ทั้ง 4 คนยืนดูว่าเกิดอะไรขึ้น โซเฟียเดินเข้าไปหาเด็ก เอลิซ่าบอกให้อยู่ห่างๆ ตัวเอลิซ่าเองก็เดินไปยืนอยู่ริมหน้าต่างเหมือนรู้ว่าข้างนอกมีอะไร
ต้องตกใจอีกครั้งจู่ๆไฟสปอร์ตไลน์สีแดงและเสียงเตือนภัยเปิดขึ้นพร้อมกันอยู่ตรงลานกว้างด้านนอกบ้าน ทุกคนที่อยู่บนบ้านไปยืนดูที่หน้าต่าง จากนั้นก็เห็นคนสวมหน้ากากกวาง ค่อยเดินออกมาจากมุมมืด ชายสองเดินหิ้วปีกมาร์คออกมาจากรถ ลากตัวมาร์คพาตรงเข้ามาในบ้าน
โซเฟียเห็นคนเหล่านั้นทำกับมาร์คจะวิ่งลงไปช่วย แต่โดนหมอจับไว้และปิดบากไม่ให้ร้อง ฟาบิซิโอวิ่งไปดึงประตูขึ้น คนที่อยู่ข้างบนได้แต่แอบมองผ่านทางช่องว่างระหว่างพื้นไม้ว่าคนเหล่านั้นจะทำอะไรกับมาร์ค
พวกเขาจับมาร์คนอนลงกับพื้นไม้ มัดมือ มัดเท้า มัดปาก คนที่ยืนอยู่ปลายเท้ามาร์คยกค้อนปอนด์ขึ้นแล้วทุบไปยังเท้าทั้ง2สองของเขาทำให้ข้อเท้าหัก มาร์คร้องสุดเสียงแต่ก็ไม่มีเสียงเพราะโดนปิดปากไว้ จากนั้นก็เอาหน้ากากมาครอบวางตรงหน้าพอดี หน้ากากที่เข็มปลายแหลมยื่นออกมาตำแหน่งพอดีกับดวงตาของมาร์คแล้วก็หมุน ทุกครั้งที่หมุนเข็มแหลมก็จะยื่นออกใกล้ดวงตาของมาร์ค ค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆจนสุดท้ายแทงลูกตาทั้ง 2 ข้าง แล้วก็ลากมาร์คออกไปจากบ้านหลังนั้น ไม่มีใครสักคนที่จะช่วยมาร์ค
ต้องตามไปดูว่าคนเหล่านั้นจะทำอะเไรกับมาร์คที่ไม่มีทางสู้ หรือว่ามาร์คคือคนที่เขาเลือกมาบูชายันแล้ว
เมือดูแล้ว สำหรับผมถ้าเป็นหนังแนวสยองขัวญ และดูแล้วสนุกเหยื่อต้องมีโอกาสได้สู้บ้าง หนังเรื่องนี้ก็เป็นตามที่ผมหวังไว้สะใจดี แต่สุดท้ายก็มีหักมุม
ซีซั่นที่ 1 |